![[THE IMPORTER 168] SEO SEP C01 1 1200x628](https://importer168.com/wp-content/uploads/2024/09/THE-IMPORTER-168-SEO-SEP-C01-1_1200x628-150x150.jpg)
นำเข้าและจัดหาแรงงานพม่า มีเอกสารและขั้นตอนอย่างไรบ้าง
26 กันยายน 2024![[THE IMPORTER 168] SEO NOV C01 1 1200x628](https://importer168.com/wp-content/uploads/2024/11/THE-IMPORTER-168-SEO-NOV-C01-1_1200x628-150x150.jpg)
จัดหาแรงงานลาว ทำอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎหมาย ได้แรงงานคุณภาพ?
29 พฤศจิกายน 2024ในปัจจุบัน การจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการแรงงานเพิ่มเติม โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้าง และการบริการซึ่งล้วนมีอัตราการรับคนงานต่างด้าวเข้าทำงานสูง ทั้งนี้ การรับคนงานต่างด้าวเข้าทำงานนั้นมีกฎระเบียบและขั้นตอนที่ต้องศึกษาให้ดี ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรทำความเข้าใจและเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการจ้างแรงงานต่างด้าว MOU หรือแรงงานต่างด้าวเดิม ที่มีอยู่ในประเทศไทย ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เรียกอีกอย่างหนึ่งคือ แรงงานต่างด้าวกลุ่มบัตรชมพู เพื่อให้กระบวนการดำเนินไปอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับนายจ้าง ต้องการเริ่มจ้างแรงงานต่างด้าว
อันดับแรก ก่อนพิจารณารับแรงงานต่างด้าวเข้าทำงาน นายจ้างอาจต้องเตรียมความพร้อมเรื่องของสถานที่และฝ่ายการผลิต ทั้งเรื่องการสื่อสารและการประสานงานในฝ่ายผลิตหากนายจ้างเป็นภาคโรงงานอุตสาหกรรมหรือภาคการก่อสร้าง แต่หากว่านายจ้างเป็นบุคคลธรรมดาไม่ได้จดทะเบียนในนามนิติบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ก็อาจพึงพิจารณาเรื่องแรงงานต่างด้าวที่จะมาพักอยู่กับทางนายจ้างหรือไปกลับในแต่ละวันมีความสะดวกสำหรับการเดินทางหรือไม่
การ นำเข้าแรงงานต่างด้าวหรือว่าจ้างแรงงานต่างด้าวนั้น อาจจะต้องจัดเตรียมเพื่อการจ้างแรงงานต่างด้าวดังนี้
- เตรียมแผนกหรือประสานงานกับฝ่ายการผลิต หากประสงค์ต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวจะเป็นแรงงานนำเข้าหรือแรงงานภายในประเทศอันเนื่องมาจากการติดขัดเรื่องของการสื่อสาร
- ล่ามประสานงาน หรือผู้ที่มีความ สามารถทางด้านภาษาในการแปล
- การจัดเตรียมเรื่องห้องพักที่พักและสวัสดิการต่างๆ ซึ่งโดยรวมแล้ว สวัสดิการย่อมเป็นไปตามที่กฎหมายแรงงานไทยกำหนดหรือสามารถอ้างอิงกับการจ่ายให้กับแรงงานไทยก็ได้
- การว่าจ้างการดูแลสวัสดิการรวมไปถึงกฎหมายแรงงานและสิทธิของแรงงานต่างด้าว นายจ้างสามารถอ้างอิงและใช้ตัวกฎหมายเดียวกันกับกฎหมายคุ้มครองแรงงานไทยได้บุคลากรหรือฝ่ายบุคคลอาจจะต้องมีความรู้ มีความพร้อมในการดูแลและบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว
ข้อสำคัญควรทราบเมื่อต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว
1. แรงงานต่างด้าวต้องมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
ในการจ้างแรงงานต่างด้าว ถ้าเป็นแรงงานต่างด้าว นำเข้าตามระบบ MOU ต้องมี
1.1 หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตในการเข้าประเทศ
1.2 ดวงตราวีซ่าที่เป็นการระบุว่าให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้เป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
1.3 ใบอนุญาตการทำงาน
แต่ถ้าเป็นแรงงานต่างด้าว กลุ่มพิสูจน์สัญชาติหรือบัตรชมพู เอกสารที่นายจ้างจำเป็นต้องมีและดำเนินการ ดังนี้
1.4 หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต หนังสือรับรองบุคคลหรือ
1.5 ดวงตราวีซ่าที่เป็นการระบุว่า ให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้เป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามประกาศของคณะรัฐมนตรี
1.6 หลักฐานการพิสูจน์ในการตรวจอัตลักษณ์ของแรงงานต่างด้าว
1.7 ใบอนุญาตการทำงานที่เป็นไปตามที่ประกาศของคณะรัฐมนตรีกำหนด
1.8 บัตรชมพู ซึ่งเป็นบัตรยืนยันตัวตนของบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งออกโดยกรมการปกครอง
เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ไม่ได้เป็นแรงงานที่ลักลอบเข้ามาในประเทศและทำงานอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งการนำเข้าแรงงานต่างด้าวควรกระทำผ่าน MOU เพื่อลดความซับซ้อนในการหาแรงงาน โดยปัจจุบันมีการลงนาม MOU ร่วมกับระหว่าง 4 ประเทศ ได้แก่ ลาว กัมพูชา เมียนมา และเวียดนาม อีกทั้งสามารถตรวจสอบเอกสารและประวัติของลูกจ้างต่างด้าวได้สะดวก เป็นแรงงานที่มีคุณภาพ และไม่ต้องเสี่ยงรับโทษใดๆ อันเนื่องมาจากการนำเข้าแรงงานแบบผิดกฎหมาย
2. แรงงานต่างด้าวต้องเข้าตรวจสุขภาพตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขของประกาศและขั้นตอน การว่าจ้างแรงงานต่างด้าว
นายจ้างต้องให้แรงงานต่างด้าวไปตรวจสุขภาพตามที่กำหนดหลังได้รับวีซ่าภายใน 30 วัน โดยมีรายการตรวจครอบคลุม 6 โรค ได้แก่ โรคเรื้อน (Leprosy), วัณโรคระยะอันตราย (Advanced Pulmonary Tuberculosis), โรคยาเสพติดให้โทษ (Drug Addiction), โรคพิษสุราเรื้อรัง (Chronic Alcoholism), โรคเท้าช้าง (Elephantiasis) และโรคซิฟิลิสในระยะที่ 3 (VDRL) เพื่อนำใบรับรองแพทย์ไปยื่นเพื่อประกอบการของใบอนุญาตทำงาน หรือยืนยันการแจ้งเข้ารายงานหากแรงงานต่างด้าวนั้นเป็นแรงงานนำเข้าตามระบบ MOU
3. แรงงานต่างด้าวต้องผ่านการอบรมก่อนเริ่มทำงาน
แรงงานต่างด้าวทุกคนที่เข้ามาทำงานในไทยจะต้องเข้ารับการอบรม ณ ศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้าง เพื่อที่จะได้รับใบอนุญาตแรงงาน (Work Permit) อย่างถูกต้อง
4. แรงงานต่างด้าวต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น
ตามกฎหมาย แรงงานต่างด้าวต้องมีอายุ 18 บริบูรณ์ ในกรณีที่มีการอนุญาตให้จ้างแรงงานที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แรงงานต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งแรงงานเหล่านี้สามารถทำได้เฉพาะงานที่ไม่เป็นอันตราย เช่น งานที่ไม่เกี่ยวกับความร้อน ความเย็น ความสั่นสะเทือน เสียงและแสงที่มีระดับแตกต่างจากปกติอันอาจเป็นอันตราย รวมถึงงานที่ไม่เกี่ยวกับวัตถุมีพิษ วัตถุระเบิด หรือวัตถุไวไฟ เว้นแต่งานในสถานีบริการที่เป็นเชื้อเพลิง เป็นต้น แต่หากแรงงานนำเข้านั้นเป็นแรงงานนำเข้าตามระบบ MOU อายุของแรงงานต่างด้าวต้อง 18 ปีบริบูรณ์เท่านั้น
5. แรงงานต่างด้าวต้องได้รับอัตราค่าแรงขั้นต่ำเท่ากับคนไทย
แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศล้วนมีสิทธิตามกฎหมายที่จะได้รับค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ โดยค่าแรงขั้นต่ำอัตราใหม่ในกรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาครอยู่ที่ 363 บาท (ตามกำหนดกระทรวงแรงงานว่าด้วยอัตราค่าแรงขั้นต่ำปี 2567)
6. แรงงานต่างด้าวต้องรายงานตัวทุกๆ 90 วัน
6.1 แจ้งที่พักอาศัยให้กับแรงงานต่างด้าวภายใน 24 ชั่วโมง
6.2 รายงานตัวทุกๆ 90 วันกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองท้องที่
ทั้งสองกรณี หากไม่ดำเนินการตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดอาจมีค่าปรับที่เกิดขึ้นตามกฎหมายได้
7. นายจ้างต้องนำส่งประกันสังคมให้แก่แรงงานต่างด้าว
สำนักงานประกันสังคมได้ประกาศว่าแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในไทยจะต้องส่งเงินสมทบประกันสังคม ซึ่งสามารถยื่นได้หลังจากเข้าทำงานโดยมีหลักฐานใบอนุญาตการทำงานภายใน 30 วัน ด้วยการยื่นแบบฟอร์มขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส.1-03) แรงงานต่างด้าวจะได้รับการดูแลสวัสดิการ-สิทธิประโยชน์คุ้มครอง 7 กรณี ได้แก่ กรณีคลอดบุตร กรณีการสงเคราะห์บุตร กรณีเจ็บป่วยหรือได้รับอันตรายจากการทำงาน กรณีทุพพลภาพ กรณีชราภาพ กรณีว่างงาน และกรณีเสียชีวิต
อยากจ้างแรงงานต่างด้าว ต้องทําอย่างไร?
![[THE IMPORTER 168] SEO OCT C01 2 1200x628](https://importer168.com/wp-content/uploads/2024/10/THE-IMPORTER-168-SEO-OCT-C01-2_1200x628.jpg)
การจ้างแรงงานต่างด้าวที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถดำเนินการผ่านระบบ MOU (Memorandum of Understanding) ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว กัมพูชา เมียนมา และเวียดนาม โดยสามารถนำเข้าแรงงานได้ 2 รูปแบบ คือ
1. นายจ้างนำเข้าแรงงาน MOU ด้วยตนเอง
โดยนายจ้างต้องมีการวางหลักประกันการนำเข้าแรงงาน MOU เพื่อในกรณีที่เกิดความเสียหายจากการนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานกับนายจ้างเอง ซึ่งสามารถใช้เงินสด พันธบัตรรัฐบาล หรือสัญญาค้ำประกันของธนาคารก็ได้ สูงสุด 1 แสนบาทต่อนายจ้างหนึ่งราย
2. บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน
การนำเข้าผ่านบริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าวนับเป็นวิธีที่สะดวกต่อนายจ้าง ซึ่งบริษัทฯ สามารถช่วยดำเนินการด้านเอกสารและเรื่องต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและครบถ้วนแทนนายจ้าง มีการวางประกัน 5 ล้านบาท รูปแบบนี้ บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว สามารถดำเนินการแทนได้ทุกขั้นตอน แทนนายจ้าง อีกทั้งมีบริการให้คำปรึกษาแก่นายจ้างและแรงงาน
บุคคลธรรมดา จ้างแรงงานต่างด้าว ได้หรือไม่?
บุคคลธรรมดาสามารถจ้างแรงงานต่างด้าวได้ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและขั้นตอนเช่นเดียวกับนิติบุคคล โดยต้องแสดงหลักฐานที่แสดงความจำเป็นในการจ้างแรงงานต่างด้าว เช่น สัญญาจ้างงาน หรือหลักฐานการประกอบธุรกิจ นอกจากนี้ ยังต้องวางเงินประกันการจ้างแรงงานต่างด้าวตามที่กฎหมายกำหนด
สำหรับบุคคลธรรมดา การจ้างแรงงานต่างด้าวอาจมีข้อจำกัดบางประการ เช่น จำนวนแรงงานที่สามารถจ้างได้อาจน้อยกว่านิติบุคคล ซึ่งกรณีที่ชำระภาษีเงินได้ตั้งแต่ 1-50,000 บาท สามารถรับคนต่างด้าวเข้าทำงานได้ 3 คน และกรณีที่ชำระภาษีเงินได้เกินกว่า 50,000 บาท ในทุกๆ 50,000 บาท สามารถจ้างแรงต่างด้าวได้ 1 คน อีกทั้งอาจต้องแสดงหลักฐานทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อรับรองความสามารถในการจ่ายค่าจ้างและดูแลแรงงาน
สิ่งที่ผู้ประกอบการควรเตรียมก่อนจ้างแรงงานต่างด้าว
เอกสารสำคัญ
- หนังสือรับรองบริษัท (กรณีนิติบุคคล)
- สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของนายจ้าง
- แผนที่สถานประกอบการและที่พักของแรงงาน
- เอกสารแสดงความจำเป็นในการจ้างแรงงานต่างด้าว
- งบการเงินย้อนหลัง 2-3 ปี (เพื่อแสดงความมั่นคงทางการเงิน)
- แผนธุรกิจหรือโครงการที่แสดงความต้องการแรงงาน
เงินทุน
- ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน (1,900 บาทต่อคน)
- เงินประกันการจ้างแรงงานต่างด้าว (กรณีนายจ้างนำเข้าเอง)
- ค่าใช้จ่ายในการจัดหาที่พักและสวัสดิการให้แรงงาน
- งบประมาณสำหรับค่าจ้างและสวัสดิการอื่นๆ ตลอดระยะเวลาการจ้าง
สถานที่
- เตรียมสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ
- จัดหาที่พักที่เหมาะสมสำหรับแรงงาน
- จัดเตรียมอุปกรณ์ความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานแรงงาน
ความรู้ความเข้าใจ
- ศึกษากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจ้างแรงงานต่างด้าว
- เรียนรู้วิธีการดูแลและบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว
- ทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและภาษาของแรงงานต่างด้าว
- ศึกษาระบบประกันสังคมและสวัสดิการแรงงานสำหรับแรงงานต่างด้าว
การวางแผน
- กำหนดจำนวนแรงงานที่ต้องการและระยะเวลาการจ้างงาน
- วางแผนการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะให้แรงงาน
- กำหนดนโยบายการบริหารแรงงานต่างด้าวในองค์กร
- วางแผนการสื่อสารและการจัดการความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น
ประโยชน์ของการจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมาย
การจ้างแรงงานต่างด้าวผ่านระบบ MOU นอกจากจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้แรงงานตามที่ต้องการแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อธุรกิจในด้านอื่นๆ อาทิ
- ลดความเสี่ยงทางกฎหมาย: การจ้างแรงงานอย่างถูกต้องช่วยป้องกันการถูกจับกุมหรือปรับ
- เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ: แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและการปฏิบัติตามกฎหมาย
- ได้แรงงานที่มีคุณภาพ: แรงงานต่างด้าว MOU ผ่านการคัดกรองทั้งด้านสุขภาพและทักษะการทำงาน
- สามารถวางแผนธุรกิจระยะยาวได้: ลดปัญหาการเข้าออกของพนักงานบ่อยครั้ง มีการว่าจ้างตามสัญญาระยะยาว เนื่องจากสามารถจ้างแรงงานได้นานถึง 4 ปี
- ลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน: โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่แรงงานไทยไม่นิยมทำ
- สร้างความหลากหลายทางวัฒนธรรมในองค์กร: นำไปสู่การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์
สรุป การจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการแรงงาน เพราะการจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมายไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจได้แรงงานที่มีคุณภาพ แต่ยังแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนอีกด้วย ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะ การสื่อสาร และการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อความหลากหลายทางวัฒนธรรม
ทั้งนี้ ต้องดำเนินการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ประกอบการควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เตรียมเอกสารและงบประมาณ รวมถึงพิจารณาว่า จะดำเนินการนำเข้าแรงงานด้วยตนเอง หรือใช้บริการของบริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศที่มีประสบการณ์อย่าง ดิ อิมพอร์ตเตอร์ 168 จำกัด ซึ่งสามารถช่วยลดความท้าทายและทำให้กระบวนการนำเข้าแรงงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
บริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ ดิ อิมพอร์ตเตอร์ 168 จำกัด
ดิ อิมพอร์ตเตอร์ 168 บริษัทนําเข้าแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทย ได้จดทะเบียนอนุญาตในการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามระบบ MOU (เมียนมา กัมพูชา และลาว) กับกรมจัดหางานและกระทรวงแรงงานตามพระราชกำหนดการทำงานคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 สามารถจัดหาแรงงานพม่า กัมพูชา ลาว และเวียดนาม พร้อมดำเนินการเอกสารทุกรูปแบบเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทได้วางหลักประกัน กับกรมการจัดหางานเป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นายจ้างที่มาใช้บริการ
บริการของ ดิ อิมพอร์ตเตอร์ 168 คือ การนำเข้าแรงงานต่างด้าว โดยบริษัทจะเป็นผู้ดำเนินการเอกสารให้ทุกขั้นตอน ดูแลการจ้างแรงงานต่างด้าวให้ตลอดสัญญา รวมไปถึงการจัดการเอกสารของแรงงานต่างด้าว เช่น การไปรายงานตัวทุก 90 วัน ต่อใบอนุญาตทำงาน ต่อวีซ่าและเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าว ด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 15 ปี โดยเรามีนโยบายและจุดมุ่งหมายของการทำงานของทางบริษัทคือให้นายจ้างที่ประสงค์จะจ้างแรงงานต่างด้าว mou มีความสะดวกสบายที่สุดเสมือนหนึ่งกับการใช้แรงงานไทย
หากสนใจการนำเข้าแรงงาน MOU ติดต่อ บริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ ดิ อิมพอร์ตเตอร์ 168 จำกัด ผ่านช่องทางที่ระบุด้านล่าง
โทร.: 02-101-2814, 081-1717894
อีเมล: importer168@gmail.com
LINA OA: The Importer 168
Facebook: The Importer 168 นำเข้าต่างด้าว
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจของท่านเติบโตและมีส่วนสนับสนุนภาพแรงงานในส่วนของการผลิตให้กับธุรกิจของท่าน