ความเข้าใจที่ถูกต้อง
ในการจ้างแรงานต่างด้าว 4 สัญชาติ ปัจจุบัน แรงงานต่างด้าวในประเทศไทยมีอยู่ด้วยกัน สอง กลุ่ม ก็คือกลุ่มที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย
แรงงาน นำเข้าตามระบบ MOU จะแบ่งออกเป็น 4 สัญชาติ คือเมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ซึ่งทั้ง 4 สัญชาติทางนายจ้างที่มีความประสงค์จะจ้างแรงงานต่างด้าว สามารถทำเนินการนำเข้า แรงงาน ทั้ง 4 สัญชาติได้ตลอดทั้งปี ไม่มีกำหนด และไม่มีการปิด หากต้องการจ้างแรงงานทั้งที่เป็นคนเก่าและคนใหม่ ก็ สามารถดำเนินการตามระบบนี้ได้ โดยเป็นกระบวนการที่ถูกต้องและได้รับการรับรองจากกรมการจัดหางาน ฝั่งประเทศไทยและจากประเทศต้นทางทั้ง 4 ประเทศ ซึ่งแรงงาน จะต้องมีเอกสารในการนำเข้า ที่ครบถ้วน จึงจะ สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นั่นก็คือ
แรงงานกลุ่มMOU นี้ต่างกับแรงงานกลุ่มเดิม ที่อยู่ในประเทศอย่างไร ?
ปลอดภัยแค่ไหน กับการจ้างแรงงานกลุ่ม MOU ?
นายจ้างต้องทำอย่างไรเมื่อต้องการจ้างแรงงาน MOU ?
งานไม่มีโอที(O.T.) จ้าง MOU ได้หรือไม่ ?
สวัสดิการที่นายจ้างต้องจ่ายมีอะไรบ้างและต้องปฏิบัติตนอย่างไร ?
ต้องยื่นประกันสังคม ให้กับแรงงานกลุ่มนี้หรือไม่ ?
แรงงานที่ บนจ. ดิ อิมพอร์ตเตอร์ 168 นำเข้ามานั้น มีการรับประกันให้หรือไม่
แรงงานที่ บนจ. ดิ อิมพอร์ตเตอร์ 168 นำเข้ามานั้น มีการรับประกันให้หรือไม่
แรงงานต่างด้าว MOU คืออะไร ?
แรงงานต่างด้าว MOU คือ แรงงานต่างด้าวที่ผ่านการนำเข้าตามระบบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งหมด 4 สัญชาติ เมียนมา กัมพูชา ลาว เวียดนาม
ซึ่งขั้นตอนการนำเข้าแรงงานต่างๆ ผ่านความเห็นชอบของจากคณะรัฐมนตรีแต่ละประเทศ ให้ส่งออกและนำเข้ามาเพื่อทำงานยังประเทศไทย โดยผ่านการรับรองจากหน่วยงานของแต่ละฝ่าย เช่น กรมการจัดหางาน สถานฑูตไทยประจำแต่ละประเทศ สถานเอกอัคราชทูตของแต่ละประเทศประจำประเทศไทย และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยการนำเข้าแรงงานของแต่ละประเทศมีข้อตกลงว่า แรงงานจะได้รับสวัสดิการและการดูแลแรงงานตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานของประเทศไทย ทุกประการ เช่น ได้รับค่าแรงขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด จัดที่พัก,น้ำ-ไฟ(ค่าใช้จ่ายตามแต่ตกลงกัน), แรงงานทุกคนต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลตามหลักสิทธิประกันสังคม จึงถือได้ว่าแรงงานกลุ่มนี้ ค่อนข้างเสถียร์และ ง่ายต่อการควบคุม และการทำงานมากกว่าระบบอื่น
ข้อเปรียบเทียบระหว่าง แรงงานนำเข้า MOU และแรงงานกลุ่มมติ (บัตรชมพู)
เงือนไข | นำเข้า MOU | แรงงานกลุ่มมติ |
---|---|---|
การเปลี่ยนนายจ้าง | เปลี่ยนได้ แต่ต้องเข้าเงื่อนไข 5+1 ** | เปลี่ยนได้ทันที |
การต่ออายุเอกสาร | ได้คราวละ 2 ปีทุกครั้ง *หรือตามอายุหนังสือเดินทาง | ได้คราวละ1 ปี หรือ ตามมติ ครมกำหนด |
มีความ เสถียรภาพในการจ้างงาน | มั่นคงกว่าเพราะยากต่อการย้ายนายจ้าง | แรงงานสามารถปรับเปลี่ยนนายจ้างได้ตามใจชอบ |
เอกสารแรงงาน | มีครบหนังสือเดินทาง+ ใบอนุญาตทำงาน(E-work) | อาจมีไม่ครบ เนื่องจากระบบ และ ขั้นตอนยังไม่สมบูรณ์ |
เปิดบัญชี | สามารถดำเนินการเปิดได้ทันที เพราะเอกสารครบถ้วน | ไม่สามารถเปิดได้ หากเอกสารไม่ครบถ้วน ตามที่ธนาคารร้องขอ |
ประกันสังคม | สามารถขึ้นประกันสังคมได้ เลข 13 หลักครบถ้วน | ไม่สามารถขึ้นได้ หากไม่มี เลข 13 หลัก ในการขึ้นประกันสังคม |
ประวัติแรงงาน | มีการตรวจประวัติอาชญากรรมก่อนทำหนังสือเดินทาง | ไม่มีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม เนื่องจากแรงงานอยู่ไทยแล้ว |
อุบัติเหตุ-เสียชีวิต | มีการประสานงานกับทางเอเจนซี่ และข้อมูลการติดต่อกับทางญาติได้ | ไม่ทราบแหล่งที่มาของแรงงาน |
การดูแลของเอเจนซี่ต้นทาง | การประสานงาน-การให้ข้อมูลแรงงาน และช่วยเหลือแรงงาน-นายจ้าง ตลอดสัญญาจ้างงาน | ไม่มี |
กรอบเวลาการทำงาน และเอกสารต่างด้าว | มีระยะเวลาและขั้นตอนการดำเนินการที่ชัดเจน และวางแผนงานได้ | ขั้นตอนการทำเอกสาร การสรรหา ไม่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับนโยบายภาครัฐ หรือการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ |
การชำระเงิน/ การประกัน/ ความเสียหาย/ ฉ้อโกง | บริษัทนำเข้าฯ มีแหล่งที่มาชัดเจนตรวจสอบได้ จดทะเบียนถูกต้อง | อาจถูกหลอกจากนายหน้า รับเงินแล้วทิ้งงานได้ |
ข้อควรทราบ !
สำหรับนายจ้าง กับการนำเข้าแรงงาน
ต่างด้าว 3 สัญชาติ(พม่า,ลาว,กัมพูชา)
ในระบบการจ้างงาน แบบ MOU
1. อัตราค่าจ้าง/ค่าแรง ของแรงงาน
อัตราค่าจ้างจะต้องไม่ต่่ากว่าค่าแรงขั้นต่ำ ตามที่กฏหมายคุ้มครองแรงงาน ประกาศกำหนดไว้
กรณี แรงงานทำางานนอกเหนือเวลางานปกติ นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้กับลูกจ้าง ในอัตรา 1.5 เท่า หรือ การทำงานในวันหยุด นายจ้างต้องจ่ายค่าแรง 2 เท่า ตามที่กฏหมายคุ้มครองแรงงาน ประกาศกำหนดไว้เช่นกัน
2. ที่พัก
ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลของแรงงานสัญชาตินั้นๆ นายจ้างควรจะต้องจัดหาที่พัก ให้แก่แรงงาน ส่วนค่าเช่า ค่าประกันให้อยู่ที่ข้อตกลงระหว่างสองฝ่าย โดยที่พักที่ถูกสุขลักษณะตามสมควร ส่วน ค่าน้ำ, ค่าไฟ นายจ้างสามารถให้ฟรี หรือให้แรงงานจ่ายเองทั้งหมด ก็ได้ หรือ จะกำหนดขั้นต่ำเพื่อให้แรงงานประหยัดและป้องกันการใช้อย่างฟุ่มเฟือย ไว้
3. วันหยุด
นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ 1 วัน /สัปดาห์ ซึ่งอาจเป็นวันอาทิตย์หรือวันใดวันหนึ่งแล้วแต่นายจ้างกำหนด
นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดตามประเพณีไทย 13 วัน / ปี โดยจ่ายค่าแรง
ลูกจ้างจะต้องได้รับสิทธิ การลาป่วย (โดยต้องแสดงหลักฐานการลา) โดยได้รับค่าแรงเช่นกัน
4. ประกันสังคม
นายจ้างจะต้องจัดทำประกันสังคมให้กับลูกจ้าง ภายหลังได้รับใบอนุญาตทำงาน(work permit) ทันที เพื่อใช้สิทธิรักษาฟรี หรือรักษาพยาบาลแก่ลูกจ้างตลอดระยะเวลาของสัญญา ทั้งในกรณีประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานและกรณีเจ็บป่วยอื่น
5. การบอกเลิกสัญญา
กรณีนายจ้างประสงค์จะบอกเลิกสัญญา นายจ้างต้องบอกกล่าวให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้า 1 เดือน หรือจ่ายเงินค่าจ้าง 1 เดือน แทนการบอกเลิกสัญญา หรือให้เป็นไปตามกฏหมายแรงงานไทย รวมทั้งนายจ้างต้องจ่ายค่าเดินทางกลับประเทศให้แก่ลูกจ้างด้วย หากนายจ้างเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อน
6. ข้อดีของแรงงาน MOU
แรงงานตามระบบการจ้างงาน นี้ จะไม่สามารถเปลี่ยนย้ายนายจ้างได้ หากไม่เข้าเงื่อนไขการเปลี่ยนนายจ้าง สัญญาจ้างงานตลอดระยะเวลา 4 ปี ( วีซ่า2 ครั้ง คราวละ 2 ปี ) แรงงานสามารถทำงานอยู่กับนายจ้างได้ถึง 2 ปี สามารถต่อสัญญาทำใบอนุญาตการทำงาน ต่อได้อีก 2 ปี รวมเป็น 4 ปี นายจ้างสามารถต่อวีซ่า ขอใบอนุญาตท่างาน เพิ่มได้อีกหลังจากครบ 2 ปี แรก ซึ่งค่าใช้จ่าย แล้วแต่การตกลงใครจะรับผิดชอบค่าธรรมเนียม
ใบอนุญาตทำงาน และเอกสารของแรงงานเอง จะระบุชื่อกิจการของนายจ้างเท่านั้น ตามเอกสารการนำเข้า